#น้ำยาทำความสะอาดคาวไฮ หรือ สำหรับ หนังวัวฟอกฝาด Cowhide cleansingใช้ร่วมกับการสปาแบบเปิดผิว
น้ำยาฟอกขาวสำหรับคาวไฮด์(เหมาะสำหรับคาวไฮด์ที่ยังอยู่ในสถาพสมบรูณ์แต่มีสีคล้ำขึ้น)***ไม่เหมาะกับคาวไฮด์ที่แห้งแตกหรืออายุใช้งานมานานจนมีการฉีกขาด ควรใช้คู่กับฟองน้ำทำความสะอาดคาวไฮด์หลังใช้ควรทำความสะอาดต่อด้วย Cowhide & Calf Leather Cleansing Gel และเคลือบเงาด้วย Cowhide Polishing Cream * * * บรรจุภัณฑ์อาจมีการปรับเปลี่ยนตามปริมาณของสินค้า * * * The packages may be varied due to the different amount of products #วิธีทดสอบเพื่อวัดอัตราการดูดซึมของหนังเป็นการแยกประเภทอย่างง่ายๆด้วยวิธีการดังนี้หยด INK REMOVER ลงบนคอตตอนบัดแล้วจุดลงบนหนังของกระเป๋าที่ต้องการทำความสะอาดในพื้นที่ที่ไม่โดดเด่น (ไม่ควรใช้ของเหลวอื่นหรือน้ำเปล่าในการทดสอบเนื่องจากอาจมีความเข้มข้นไม่เพียงพอทำให้ผลที่ได้คลาดเคลื่อน) โดยหากผลที่ได้ 1. ขึ้นเป็นจุดดำ (หนังเปียก) แสดงว่าหนังมีอัตราการดูดซึมสูงจัดว่าเป็น Unfinished Leather คือหนังที่ไม่ได้เคลือบด้วยสารปิดผิว 2. หากจุดน้ำยา INK REMOVER ด้วยคอตตอนบัดลงบนหนังแล้วไม่มีการเปลี่ยนแปลงจัดว่าหนังเป็นประเภท Finished Leather คือเป็นประเภทที่เคลือบผิวมาแล้วมีความทนทานและอัตราการดูดซึมต่ำโดยวิธีทำความสะอาดกระเป๋าหนังเราสามารถจับคู่ประเภทหนังและน้ำยาที่เหมาะสมกับหนังแต่ละประเภทได้ดังนี้. 1. Unfinished มีแยกย่อยได้อีกหลายประเภท 1. 1Cowhide หรือหนังวัวฟอกฝาดเป็น Unfinished สีอ่อนที่สามารถทำความสะอาดได้ด้วย Cowhide whitening ตามด้วย Cowhide & Calf Leather Cleansing Gel และขัดเงาด้วย Cowhide Polishing Cream จุดสำคัญของหนังประเภทนี้คือควรทำความสะอาดด้วย Wax / Oil Free product เพื่อไม่ให้หนังดูเปียกและดำโดยแบรนด์ที่ใช้หนังประเภทนี้เป็นวัสดุหลัก ๆ ได้แก่ Louis Vuitton 1. 2 Dye Leather คือหนังที่ผ่านการย้อมสีแต่ไม่ได้เคลือบผิวเพื่อโชว์ความนุ่มนวลและลายหนังตามธรรมชาติหนังประเภทนี้ควรแยกทำความสะอาดตามสีเนื่องจากจะสามารถทำความสะอาดได้เฉพาะสีเข้มเกือบดำเท่านั้น เช่นสีดำสีน้ำเงินเข้มสีน้ำตาลเข้มแดงเข้มเขียวเข้มฯลฯผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับหนังประเภทนี้ได้แก่ Leather Polishing Cream หรือผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำมันหรือแวกซ์เป็นส่วนผสมจะใช้ได้ดีกับหนังประเภทนี้และสีโทนดังกล่าวส่วนหนังประเภทนี้แต่สีสว่างเช่นสีเบจสีครีมไม่สามารถทำความสะอาดได้เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นส่วนผสมหลัก (Water Base) ทำความสะอาดสีจะด่างและซีดหากใช้ผลิตที่มีน้ำมันหรือแว็กซ์ (Oil Base) เป็นส่วนผสมทำความสะอาดหนังจะเป็นซ้ำ ๆ ดำคล้ำขึ้นวิธีดูแลเมื่อเก่าควรทำสีเพื่อปกปิดความเก่าหรือริ้วรอยต่างๆที่เกิดจากการใช้งานโดยแบรนด์ที่ใช้หนังประเภทนี้เป็นวัสดุหลัก ได้แก่ Chanel: Lamb 2. Finished Leather หนังประเภทนี้ถ้าสียังสมบูรณ์ดีแค่เพียงสกปรกสามารถทำความสะอาดได้ง่ายๆแต่ควรแยกวิธีการทำความสะอาดตามสีเช่นกัน 2. 1 หากเป็นสีเข้มเกือบดำให้ใช้ Leather Polishing Cream เช็ดได้เลย 2. 2 หากเป็นสีสว่างมาก ๆ เช่นขาวหรือเบจให้ใช้ Cowhide & Calf Leather Cleansing Gel กับฟองน้ำเช็ดคราบสกปรกก่อนจึงค่อยเพิ่มความเงางามด้วยการใช้ผ้าสะอาดเช็ด LeatherPolishing Cream เพื่อให้ขึ้นเงา. 2. 3 หากเป็นหนังแก้วให้ใช้ Leather Polishing Cream เช็ดทำความสะอาดพร้อมบำรุงแต่ถ้าหนังแก้วเก่ามากไม่ขึ้นเงาแล้วควรใช้น้ำยาเฉพาะของหนังแก้วคือ Patent Cleansing Mousse ทำความสะอาด น้ำยานี้ใช้ได้ดีกับหนังแก้วแท้ห้ามใช้กับหนังแก้วเทียม (ติดตามวิธีดูหนังแท้และหนังเทียมได้ในบนความต่อ ๆ ไปครับ) แต่หากหนังแก้วดูดสีหรือเลอะหมึกมีทางเดียวครับ คือทำสีและเคลือบแก้วใหม่ซึ่งหากเป็นกรณีนี้จะมีความยุ่งยากในการทำมากควรให้ผู้เชี่ยวชาญแก้ไขครับ อ่านแล้วลองทำครับง่ายๆ ไม่ยากแต่หากติดปัญหาในวิธีการทำติดต่อเราได้เลยครับ