Sketolene สกีโทลีน สเปรย์กันยุง โซ ซอฟท์ เคลียร์ / น้ำมันตะไคร้หอม / ชีลด์

สกีโทลีน สเปรย์กันยุง
ป้องกันยุงได้ยาวนานถึง 7 ชม.

มีให้เลือก 2 ขนาด
- 40 มล.
- 70 มล.

มีให้เลือก 3 กลิ่น
1. (สีม่วง) โซ ซอฟท์ เคลียร์ กลิ่นหอมไล่ยุง...พร้อมบารุงผิว”
- ส่วนผสมจากสารป้องกันยุง DEET 12%
- ลาเวนเดอร์ เพิ่มประสิทธิภาพในการไล่ยุง กลิ่นหอมทาให้รู้สึกผ่อนคลาย
- วิตามินอีช่วยบารุงและฟื้นฟูผิวแห้งกร้าน ถูกทาร้าย เพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว
- ว่านหางจระเข้ ลดอาการอักเสบ บวม และระคายเคืองผิว ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นใต้ผิวหนัง ลดปัญหาผิวแห้ง
2. (สีเขียว) สกีโทลีน สูตรตะไคร้หอม
- กันยุงแบบธรรมชาติ 100% ด้วยส่วนผสมของน้ำมันยูคาลิปตัส และกลิ่นตะไคร้หอม
- ปลอดภัยไร้สารเคมี ไม่ระคายเคือง
- เหมาะสำหรับเด็ก และผิวบอบบางแพ้ง่าย (สูตรขายดีที่สุด)
- เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบทำกิจกรรมเวลากลางคืน หรือกลางแจ้ง เช่น ออกไปรับประทานอาหาร ออกกำลังกาย และท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ (ทะเล ภูเขา)
3. (สีเหลือง) ชีลด์
- ประสิทธิภาพสูงสุดในท้องตลาดด้วย Deet 20%
- เหมาะสำหรับผู้ที่โดนยุงกัดง่าย หรือไปตามสถานที่ที่ยุงมีขนาดใหญ่ เช่น ยุงป่า หรือยุงทะเล
- เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบทำกิจกรรมเวลากลางคืน หรือกลางแจ้ง เช่น ออกไปรับประทานอาหาร ออกกำลังกาย และท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ (ทะเล ภูเขา)

วิธีใช้ : พ่นสกีโทลีน บริเวณผิวหนัง เพื่อกันยุง ทาก และแมลงทุกชนิด รบกวนได้นานประมาณ 7 ชั่วโมง

วิธีเก็บรักษา : เก็บในที่มิดชิดห่างจากเด็ก อาหาร สัตว์เลี้ยง เปลวไฟ และความร้อน ปิดฝาให้สนิทอย่าให้ถูกแสงแดด

คำเตือน :
1. ห้าม รับประทาน
2. ห้าม ใช้กับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี
3. ห้าม นำไปพ่นแทนสเปรย์ทั่วไป ควรพ่นเมื่อต้องการใช้ป้องกันยุง และทาก และระวังไม่ให้เด็กนำไปพ่นเล่น
4. ก่อนใช้ควรลองพ่นที่ข้อพับแขนดูก่อน ถ้าไม่เกิดอาการแพ้ หรือระคายเคืองจึงใช้พ่นบริเวณอื่น
5. ให้ใช้เฉพาะเมื่อจำเป็นเท่านั้น อย่าใช้ติดต่อกันเป็นประจำ หรือใช้ในปริมาณมาก
6. อย่าพ่นบริเวณเนื้อเยื่ออ่อน เช่น บริเวณใกล้ตา ริมฝีปาก เปลือกตา รักแร้ หรือบริเวณแผล
7. ภายหลังการใช้ หากหยิบจับอาหารควรล้างมือก่อน
8. ห้าม พ่นสเปรย์บนเสื้อผ้าที่เป็นไนลอน ผ้าฝ้าย โพลีเอสเตอร์ และหลีกเลี่ยงการให้สัมผัสกับพลาสติก ใยสังเคราะห์

วิธีแก้พิษเบื้องต้น
1. หากถูกเนื้อเยื่ออ่อนให้รีบล้างออกด้วยน้ำปริมาณมากๆ
2. หากเข้าตาให้รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดจนอาการระคายเคืองทุเลา หากไม่ทุเลาให้ไปพบแพทย์
3. หากกลืนกินวัตถุอันตราย ทำให้อาเจียนโดยให้ดื่มน้ำสะอาด 2 แก้ว แล้วทำการล้วงคอ
4. หากมีอาการรุนแรง ให้นำผู้ป่วยส่งแพทย์พร้อมกับภาชนะบรรจุวัตถุอันตราย