Saengdao(แสงดาว) หนังสือ เกิดมาขบถ
ผู้เขียน: จรัล ดิษฐาอภิชัย
สำนักพิมพ์: แสงดาว
จำนวนหน้า: 448 หน้า | ปกอ่อน
พิมพ์ครั้งที่: 1 — ปี 2566
รหัสสินค้า: 9786163887122
หมวดหมู่: อัตชีวประวัติ
จากอัตชีวประวัติและเรื่องราวส่วนตัวของเขาน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง จากเด็กบ้านนอก ขัดสน แต่แสวงหาและทะเยอทะยานทางการศึกษา และขณะเดียวกันเขาก็สนใจการเมือง ทั้งหมดมีส่วนผลักดันให้เขาเดินทางสู่เมืองกรุง และเริ่มสร้างตำนานชีวิตของนักสู้และนักเคลื่อนไหว ณ บัดนั้นจวบจนบัดนี้...
สิ่งหนึ่งที่บอกกับเราจากเรื่องราวของเขาก็คือ มิตรสหายเป็นสิ่งสำคัญ จรัล ดิษฐาอภิชัย มีวันนี้ได้นั้นปฏิเสธไม่ได้ว่า เพราะเขามีมิตรสหาย ไม่ว่าจะเป็นสหายร่วมรบ สหายร่วมอุดมการณ์ สหายต่างอุดมการณ์ และสหายต่างวัย ทว่า ต่างก็คือสหาย
นับจากเยาว์วัยที่อุดมการณ์ทางการเมืองของเขาเริ่มปรากฏ และตื่นเต้นเร้าใจที่สุดในวันที่เขาเข้าป่า หลังเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 เขาถูกจับ หนีออกจากคุก และเดินทางเข้าป่า ไปเป็นทหารปลดแอกประชาชน ร่วมพลังกับเพื่อนร่วมอุดมการณ์ในนามพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย หลังออกจากป่าคืนเมือง เผชิญเหตุการณ์ทางการเมืองในหลายสถานการณ์ เช่นเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ หลังจากนั้นเข้าสู่เส้นทางการเมือง เป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ร่วมต่อต้านรัฐประหาร19 กันยา 2549 กระทั่งเข้าสู่ยุค นปช. คน “เสื้อแดง” ปี 2553 เขาเข้าร่วมการต่อสู้กับความไม่ยุติธรรม และเมื่อเกิดโศกนาฏกรรมเสื้อแดงถูกสลาย เขาก็ลี้ภัยไปประเทศเพื่อนบ้าน... ปี 2554 กลับประเทศไทย รับตำแหน่งทางการเมือง ต่อมาถูกคดี 112 จากการเป็นประธานงานฉลอง 40 ปี 14 ตุลา บันทึกเหตุการณ์ทางการเมืองช่วงที่น่าสนใจยิ่ง ด้วยมีมวลชนหลายฟากฝ่ายที่มีความคิดเห็นทางการเมืองหรืออุดมการณ์แตกต่างกัน เกิดขึ้นมากมาย กระทั่ง 22 พฤษภาคม 2557 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำการรัฐประหารยึดอำนาจนายกหญิงยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คราวนี้เขาลี้ภัยทางการเมืองอีกครั้งและครั้งนี้ มีคดี 112 ติดตัว
ทุกวันนี้เขาเป็นพลเมืองของประเทศฝรั่งเศส 🇫🇷 เดินทางไปแทบจะทุกประเทศที่ปรารถนาใช้หัวใจแห่งอิสรเสรี และหัวใจขบถ โบยบินไปทุกถิ่นที่ที่เขาจะสามารถเข้าร่วมเคลื่อนไหว และขับเคลื่อนความยุติธรรมให้ก่อเกิดบนโลกใบนี้
การขับเคลื่อนพลังทางสังคมของเยาวชนคนรุ่นใหม่นับแต่ปี 2563 เป็นต้นมานี้ ทำให้เขาเชื่อมั่นว่าในวัยที่ใกล้จะลาลับฟ้าของเขา เขาจะได้เห็นพลังอำนาจของคนรุ่นใหม่ ที่จะสามารถชี้ขาดสังคมได้
ในท้ายที่สุดเขากล่าวว่า “ในทางการเมืองไทย ผมพยายามอยู่เหนือความขัดแย้ง เพราะจุดยืนพื้นฐานของผม พยายามผนึกกำลังประชาธิปไตยและกลุ่มก้าวหน้าทุกฝ่าย ยึดเข็มมุ่ง ‘พูดทุกคำ ทำทุกอย่าง เพื่อชัยชนะในการต่อสู้’ ความคิดทางการเมือง ‘เริ่มจากต่อสู้เพื่อเสรีภาพ ประชาธิปไตยตามแนวทางรัฐสภา มาปฏิวัติคอมมิวนิสต์หนทางยึดอำนาจรัฐด้วยกำลังอาวุธ เข้าป่า กลับจากฝรั่งเศส เป็นนักประชาธิปไตย นักสิทธิมนุษยชน และนักสากลนิยม แต่ยังรักษาวิญญาณเป็นฝ่ายซ้ายถึงทุกวันนี้’ ”
เขาเป็นนักประชาธิปไตยทีต่อสู้และไม่ย่อมจำนน โชคดีที่เขาเจอประเทศและรัฐที่มีวิญญาณของความเป็นประชาธิปไตยที่ยินดีให้เขาพำนักตลอดกาล