H แนวทางการเขียนคำฟ้องคดีแพ่งคำฟ้องคำให้การ ฟ้องแย้งสัญญาประนีประนอมยอมความ พร้อมตัวอย่าง
H แนวทางการเขียนคำฟ้องคดีแพ่งคำฟ้องคำให้การ ฟ้องแย้งสัญญาประนีประนอมยอมความ พร้อมตัวอย่าง สมศักดิ์ เอี่ยมพลับใหญ่ (เริ่มจัดส่ง 27 ก.ค. 66)
H พิมพ์ครั้งที่ 6 / 2566
สมศักดิ์ เอี่ยมพลับใหญ่
จำนวนหน้า 568 หน้า
ขนาด 18.5 x 26 ซม.
ปกอ่อน (T)
9789742039257
นิติธรรม
คำนำ
พิมพ์ครั้งที่ ๖
เมื่อเกิดกรณีพิพาทคดีแพ่งขึ้น หากเป็นคู่ความฝ่ายที่เสียหาย สิ่งแรกที่ควรพิจารณา
คือการเขียนคำฟ้องคดีแฟง เพื่อให้คำฟ้องครบถ้วนสมบูรณ์ แต่หากเป็นคู่ความฝ่ายที่ถูกฟ้อง
สิ่งที่เป็นสาระสำคัญคือจะต้องเขียนคำให้การให้ครบถ้วนถูกต้องสมบูรณ์เพื่อให้เกิดเป็น
ประเด็นที่จะต่อสู้ตามคำให้การนั้น บางกรณีคู่ความฝ่ายที่ถูกฟ้องอาจฟ้องแย้งหากคดีดังกล่าว
เกี่ยวข้องกับฟ้องเดิมพอที่จะรวมวินิจฉัยเข้าด้วยกันได้และเพื่อให้คดีเสร็จสิ้นไปในคราวเดียว
โดยไม่ต้องฟ้องใหม่ กรณีมีทั้งคำฟ้อง คำห้การ ฟ้องแย้ง ฟ้องครบถ้วนแล้ว หนทางหนึ่ง
ซึ่งจะทำให้คดีเสร็จสิ้นโดยรวดเร็วและเป็นประโยชน์แก่คู่ความทุกฝ่ายคือ การตกลงทำสัญญา
ประนีประนอมยอมความ ซึ่งถือว่าเป็นข้อตกลงที่คู่ความทุกฝ่ายยอมรับ เป็นธรรม และ
สมประโยชน์แก่คู่ความทุกฝ่ายมากที่สุดด้วยเหตุผลต่างๆ เหล่านี้ ผู้เขียนจึงได้เสนอแนวทาง
พร้อมข้อสังเกต ข้อเสนอแนะในการเขียนคำฟ้อง คำให้การ ฟ้องแย้ง และการทำสัญญา
ประนีประนอมยอมความไว้เพื่อคู่ความและผู้ที่สนใจใช้เป็นแนวทางในการดำเนินคดีได้โดย
ครบถ้วนและถูกต้องเพราะความบกพร่องเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งอาจมีผลให้เป็นหนทางแพ้
หรือขนะคดีได้ นอกจากนี้ ผู้เขียนได้รวบรวมตัวอย่างคำฟ้อง คำให้การ ฟ้องแย้ง ร้องสอด
สัญญาประนีประนอมยอมความ ซึ่งเห็นว่าเป็นคดีที่มีความสำคัญ ทันสมัย และเกิดขึ้นเป็น
ประจำเพื่อจะเป็นประโยชน์แก่คู่ความในการนำไปเป็นตัวอย่างหรือแนวทางประยุกต์ใช้ในการ
เขียนคำฟ้อง คำให้การ ฟ้องแย้ง ร้องสอด และการตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความ
เพื่อให้เกิดผลถูกต้องสมบูรณ์ตามกฎหมาย ในการพิมพ์ครั้งที่ : ได้ปรับปรุงเพิ่มคำพิพากษา
ศาลฎีกาที่ทันสมัยพร้อมข้อเสนอแนะที่สำคัญ หากมีข้อบกพร่องประการใดผู้เขียนน้อมรับไว้
เพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงต่อไป
สมศักดิ์ เอี่ยมพลับใหญ่
ผู้พิพากษา
สารบาญ
บทที่ ๑ การฟ้องคดีแพ่ง
๑.๑ การเตรียมคดีแฟง
๑.๒ การร่างคำฟ้องคดีแพ่ง
๑.๓ ข้อสังเกตในการร่างคำฟ้องคดีแพ่ง
๑.๔ การร่างคำฟ้องต้องพิจารณาวิธีการบังคับชำระหนี้
บทที่ ๒ คำให้การคดีแพ่ง
๒.๑ การร่างคำให้การคดีแพ่ง
๒.๒ หลักเกณฑ์การสอบข้อเท็จจริง
๒.๓ ข้อสังเกในการร่างคำให้การ
บทที่ ๓ ฟ้องแย้งและคำให้การแก้ฟ้องแย้ง
๓.๑ การร่างฟ้องแย้งในคดีแพ่ง
๓.๒ ข้อสังเกตในการร่างฟ้องแย้ง
๓.๓ การร่างคำให้การแก้ฟ้องแย้ง
บทที่ ๔ การประนีประนอมยอมความ
๔.๑ หลักการทำสัญญาประนีประนอมยอมความ
๔.๒ ข้อสังเกตเกี่ยวกับการประนีประนอมยอมความ
๔.๓ ตัวอย่างสัญญาประนีประนอมยอมความ
๔.๕ สัญญาประนีประนอมยอมความในชั้นอุทธรณ์ฎีกา
ตัวอย่างคำฟ้อง คำให้การ ฟ้องแย้ง คำให้การแก้ฟ้องแย้ง
ร้องสอด สัญญาประนีประนอมยอมความ
๑.ละเมิด
๑.๑ ชกทำร้ายและเรียกค่าเสียหาย(คำฟ้อง. คำให้การ สัญญายอม)
๑.๒ ขับรถยนด์อนรถจักรยานยนต์ (จำฟ้อง คำไห้การ สัญญายอม)
๑.๓ ก่อสร้างริ้วและถมดินพังทับบ้านอื่น (คำฟ้อง. ตำให้การ. ฟ้องแย้ง ตำให้การแก้ฟ้องแย้ง)
๒. ซื้อขาย
๒.๑ สัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน เรียกเงินคืน (คำฟ้อง คำให้การ)
๒.๒ สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินผ่อนชำระธนาคารแทน (คำฟ้อง. คำให้การ ฟ้องแย้ง คำให้การแก้ฟ้องแย้ง)
๒.๓ สัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน (คำฟ้อง คำไห้การ)
๒.๔ สัญญาซื้อขายด้ายสั่งจ่ายเช็ดชำระหนี้(คำฟ้อง คำให้การ สัญญายอม)
๒.๕ สัญญาซื้อขายท่อร้อยลายไฟ.. (คำฟ้อง คำไห้การ สัญญายอม)
๒.๖ สัญญาซื้อขายรถยนต์บรรทุกและยึดรถยนต์คืน (ค่ฟ้อง. คำให้ทาร)
๒.๗ เพิกถอนโมมียะกรรมสัญญาขายที่ดิน (คำฟ้อง คำให้การ. สัญญายอม)
๒.๘ ขายฝาก ขับไล่ ยกคำาเสียหาย (ค่าฟ้อง สัญญายอม)
๓. เช่าทรัพย์
๓.๑ เช่าอาคารพาณิชย์ ดสัญญา ขับไล่ (คำฟ้อง. คำให้การ. สัญญายอม)
๓.๒ เซ่าบ้าน ตัดแปลง เรีอกค่าเสียหาย (ค่าฟ้อง คำาให้การ สัญญายอม)
๓.๓ เช่าที่ดินและบ้าน ขับไส่ เรียกค่าเสียหาย (คำฟ้องสัญญายอม)
๓.๔ เช่าชื่อที่ดิน เรียกผัจัดการมรดกป้อนที่ดิน (ค่าพอง สัญญายอม)
ฯลฯ
