20 เมล็ด บานเย็นคละสี เมล็ดบานเย็นคละสี เมล็ดพันธุ์บานเย็น เมล็ดบานเย็น ดอกสายฝน ดอกหุงข้าว จำยาม จันยาม
สมุนไพรบานเย็น มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า บานเย็น (ทั่วไป) จำยาม จันยาม ตามยาม (ภาคเหนือ) ตีต้าเช่า (จีน) จีปักหลี (จีน-แต้จิ๋ว) เป็นต้น
คำว่า Mirabilis เป็นภาษาละตินที่มีความหมายว่า สวยงาม ส่วนคำว่า Jalapa นั้นเป็นชื่อเมืองแห่งหนึ่งในประเทศเม็กซิโก จุดเด่นของดอกไม้ชนิดนี้ก็คือ ดอกจะบานในช่วงบ่ายแก่ ๆ หรือในช่วงเย็นเป็นต้นไป จึงเป็นที่มาของชื่อไทยว่า บานเย็น หรือในภาษาอังกฤษจะเรียกว่า ดอกสี่โมง (Four oclock flower) เมื่อดอกบานจะมีกลิ่นหอม ส่วนในประเทศจีนจะเรียกดอกบานเย็นว่า ดอกสายฝน (Shower flower) หรือเรียกว่า ดอกหุงข้าว (Rice boiling flower) สำหรับในฮ่องกง จะเรียกดอกบานเย็นว่า มะลิม่วง (Purple jasmine) และความน่าสนใจของดอกบานเย็นอีกอย่างหนึ่งก็คือ เป็นไม้ดอกที่สามารถมีดอกได้หลายสีอยู่บนต้นเดียวพร้อม ๆ กันได้ แต่ละดอกอาจมีหลายสีปนกันอยู่ก็ได้ และดอกยังสามารถเปลี่ยนสีได้เมื่อต้นมีอายุมากขึ้น เช่น พันธุ์ดอกเหลืองจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้ม หรือพันธุ์ดอกขาวจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีม่วงอ่อน เป็นต้น
ลักษณะของต้นบานเย็น
ต้นบานเย็น มีถิ่นกำเนิดในประเทศเปรู เม็กซิโก อเมริกากลาง และมีเขตการกระจายพันธุ์เฉพาะในทวีปอเมริกาใต้ และบางครั้งอาจขึ้นเป็นวัชพืช โดยจัดเป็นไม้พุ่มเนื้ออ่อนมีอายุหลายปี มีเหง้าหรือหัวอยู่ใต้ดิน ลำต้นมีความสูงประมาณ 1-1.5 เมตร มีลำต้นสีแดงออกนวลเล็กน้อย แตกกิ่งก้านจำนวนมาก เป็นทรงพุ่มแผ่กว้าง เป็นไม้ที่เลี้ยงง่าย ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด ควรปลูกไว้กลางแจ้งและดินที่ปลูกควรเป็นดินร่วนมีธาตุอาหารสมบูรณ์ ต้องการน้ำและความชื้นปานกลาง
สรรพคุณของบานเย็น
ช่วยแก้ไข้ ระงับความร้อนในร่างกาย (หัว)
หัวบานเย็นใช้รับประทานเป็นยาขับเหงื่อ (หัว)
หัวหรือรากช่วยแก้โรคเบาจืด (หัว)
ช่วยแก้อาเจียนเป็นเลือด แก้กระอักเลือด (ดอก หัว) ด้วยการใช้ดอกสดประมาณ 120 กรัม นำมาคั้นเอาแต่น้ำผสมกินแก้อาการ
ช่วยแก้ต่อมทอนซิลอักเสบ ด้วยการใช้รากหรือหัวสดนำมาคั้นเอาแต่น้ำใช้กวาดคอ (หัว)
หัวหรือรากบานเย็น มีสาร Alkaloid Trigonelline ที่มีฤทธิ์เป็นยาถ่าย ยาระบาย (หัว)
ช่วยขับปัสสาวะ (หัว ใบ)
เชื่อว่ารากหรือหัวของบานเย็นช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้ (หัว)
ใบนำมาใช้ภายในเป็นยารักษาโรคหนองในได้ หรือจะใช้รากหรือหัวจากต้นดอกสีขาวนำมาหั่นเป็นแผ่น ผสมกับโป่งรากสน นำมาต้มกินก่อนอาหารวันละ 2 เวลา (หัว ใบ)
ช่วยแก้อาการตกขาวของสตรี ด้วยการใช้รากหรือหัวจากต้นดอกสีขาวนำมาหั่นเป็นแผ่น ผสมกับโป่งรากสน นำมาต้มกินก่อนอาหารวันละ 2 เวลา (หัว)
ช่วยรักษาอาการบวมน้ำ (หัว)
น้ำคั้นจากใบใช้ชะล้างบาดแผลหรือแผลฟกช้ำให้หายเร็วยิ่งขึ้นได้ (ใบ)
ใบสดนำมาตำพอกหรือคั้นเอาแต่น้ำมาทาเป็นยารักษากลากเกลื้อน (ใบ)
ใช้ใบสดนำมาตำให้ละเอียด แล้วนำไปอุ่นไฟให้ร้อนพอทนได้ นำมาใช้พอกรักษาฝี แผลมีหนองต่าง ๆ ช่วยทำให้หนองออกมา แก้ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ (ใบ)
ช่วยรักษาแผลเรื้อรังได้ (ใบ หัว) หากเป็นแผลเรื้อรังบริเวณหลังให้ใช้รากหรือหัวสดจากต้นดอกสีแดง ผสมกับน้ำตาลทรายแดงพอประมาณ นำมาตำแล้วพอก และให้หมั่นเปลี่ยนยาวันละ 2 ครั้ง และหัวยังช่วยรักษาหนองได้อีกด้วย (หัว)
แป้งจากเมล็ดใช้รักษาแผลมีน้ำเหลือง ผิวหนังพองมีน้ำเหลือง ด้วยการใช้เมล็ดนำมาแกะเอาเปลือกออก แล้วเอาแป้งมาบดเป็นผงให้ละเอียด นำใช้ทาถูภายนอก (เมล็ด)[5][6]
น้ำคั้นจากใบใช้ทารักษาผื่นแดงที่มีอาการคัน ใช้ทาช่วยบรรเทาอาการคัน และยังลดอาการแสบร้อนได้ด้วย (ใบ)
ใบบานเย็นช่วยลดอาการอักเสบได้ (ใบ)
ช่วยแก้บวม แก้อักเสบ (หัว)
รากหรือหัวจากต้นดอกสีแดงนำมาใช้รักษาอาการปวดตามข้ออย่างเฉียบพลันได้ ด้วยการเอาขาหมูหรือเต้าหู้นำมาต้มกิน (หัว)
หัวใช้รับประทานจะทำให้ผิวหนังชา อยู่คงกระพันเฆี่ยนตีแล้วไม่แตกกลับทำให้รู้สึกคัน (หัว)
อัตราการงอกอาจแปรผันตามสภาวะแวดล้อมและวิธีการปลูกของผู้ปลูก เช่น ดินที่ใช้หรือวัสดุที่ใช้ วิธีการเพาะ อุปกรณ์ในการเพาะ อุณหภูมิ ความชื้น เป็นต้น
**เมล็ดพันธุ์ จำนวน 20 เมล็ด/ชุด