แม่ที่มีอยู่จริง Being There
คำนิยม หนังสือแม่ที่มีอยู่จริง
นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
หลายปีที่ผมพูด บรรยาย และเขียนเรื่องแม่ที่มีอยู่จริง สายสัมพันธ์ และตัวตน เรื่องที่ทำให้เสียใจเรื่องหนึ่งคือเพราะอะไรตนเองจึงลังเลที่จะเขียนหนังสือเล่มนี้ด้วยตนเอง ปล่อยเวลาให้ผ่านเลยจนมาถึงวันนี้ที่ได้อ่านหนังสือแปลเล่มที่ท่านถืออยู่นี้ ซึ่งเขียนเหมือนกับที่ผมพูดมาตลอดทุกประการ
หรือเป็นผมเองที่พูดเหมือนกับที่ผู้เขียนเขียนทุกประเด็น
ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้เป็นนักจิตบำบัดสายจิตวิเคราะห์ จิตวิเคราะห์เขียนและตีความได้ว่า แม่ที่มีอยู่จริงในสามขวบปีแรก เป็นเรื่องสำคัญสูงสุด แม่เป็นต้นธาร ไม่มีแม่คือไม่มีอะไรอีกเลย ความข้อนี้อาจจะฟังดูเกินจริงสำหรับผู้ไม่เชื่อจิตวิเคราะห์ แต่งานวิจัยระยะยาวช่วงหลัง รวมทั้งงานวิจัยวิทยาศาสตร์ด้านสมองใหม่ๆ ได้ยืนยันเรื่องที่จิตวิเคราะห์เขียน โดยที่ผู้เขียนได้ยกงานวิจัยบางชิ้นมาไว้ด้วย
คำนำเสนอมีหน้าที่ชวนให้ท่านอ่านในกรณีที่ท่านคิดว่าหนังสือเล่มนี้ไม่น่าอ่าน หรือทำให้ท่านอ่านได้ง่ายขึ้นในกรณีที่เป็นหนังสืออ่านยาก แต่หนังสือเล่มนี้อ่านง่าย ผู้แปลก็แปลได้ยอดเยี่ยม ดังนั้นคำนำเสนอนี้จึงทำหน้าที่ชวนท่านอ่าน อย่าได้ปล่อยผ่านเลย โดยจะยกข้อความเพียงบางตอนจากหน้าคำนำของผู้เขียนและบทที่ 1 มาเล่าสู่กันฟัง
ณ ตอนนี้ ลูกๆ ของฉันย่างเข้าวัยรุ่นและเป็นวัยรุ่นแล้ว ทุกๆ สัปดาห์ พวกแกใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่นอกบ้าน ไปโรงเรียน ทำกิจกรรมต่างๆ และพบปะเพื่อนๆ ฉันยังคงเป็นแม่ที่มีอยู่จริงเมื่อลูกๆ อยู่บ้าน แต่วันหนึ่ง เมื่อลูกชายวัยรุ่นเดินผ่านประตูเข้ามาสวมกอดฉัน ฉันก็ตระหนักได้ว่าการมีอยู่จริง การเอาใจใส่ของฉันไม่ใช่สิ่งที่ลูกๆ ต้องการเหมือนสมัยยังเป็นเด็กเล็กๆ ลูกๆ มีชีวิตส่วนอื่นนอกเหนือจากครอบครัว และถึงแม้พวกแกจะยังต้องการฉัน แต่ฉันก็ไม่จำเป็นต้องทุ่มเทเพื่อตอบสนองความต้องการทั้งกายและใจให้กับพวกแกมากอย่างที่เคยทำ ในแต่ละวันฉันมีเวลามากขึ้น และมีพื้นที่ทางใจมากขึ้น และนี่แหละคือ วัตถุประสงค์หลักของหนังสือเล่มนี้
ความจริงก็คือ ในชีวิตเราทำทุกอย่างได้ แต่ไม่ใช่ในเวลาเดียวกัน เราไม่อาจเลี้ยงดูเด็กที่มีคุณภาพได้ ถ้าไม่ทำตัวเป็นแม่ที่มีอยู่จริงทั้งกายและใจ เราจะมีอยู่จริงไม่ได้ถ้าเอาแต่เคร่งเครียดกับงานหรือกิจกรรมอื่นๆ ที่ส่งผลให้เราขาดความระวังและไม่เอาใจใส่ต่อความต้องการทางอารมณ์ของลูกๆ
คือเรื่องที่ผมพูดเสมอมา เรามีเวลาเพียงประมาณ 10 ปีหรือมากกว่านั้นเพียงเล็กน้อยที่ลูกต้องการเรา เราใช้เวลาขวบปีแรก สามขวบปีแรก และสิบขวบปีแรกอยู่กับเขาให้มากที่สุด เขาจะมีอนาคตที่ดีที่สุด