เมล็ดแตงกวาชุด แตงกวาจิ๋ว/ญี่ปุ่น/ดัช/มินิ แตงร้าน

แตงกวาดัช:
เปลือกบาง เนื้อแน่น หวานกรอบอร่อย ทานแทนผลไม้ได้ ลูกดก ให้ผลผลิตนาน โดยทั่วไปมีแต่ดอกตัวเมีย ไม่ต้องผสมเกสร ก็สามารถติดผลได้ ติดผลทุกข้อใบ การเจริญเติบโตดีมาก ต้านทานโรค เป็นพืชผักชนิดใหม่ที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศอย่างมาก อายุเก็บเกี่ยวสั้น ประมาณ 50-60 วัน

แตงกวามินิ แตงกวาไข่ไก่ ขาว/เขียว F1
อัตรางอก : 90%
อายุเก็บเกี่ยว สายพันธุ์เบา
ความยาวของผล 4-6 ซม.
วันที่ผลิต : ธ.ค. 2022(อายุในการเก็บรักษา 24 เดือน)(สำหรับแตงกวามินิเขียว)
มิ.ย. 2023(อายุในการเก็บรักษา 24 เดือน)(สำหรับแตงกวามินิขาว)
ผลขนาดเล็ก ทานแทนผลไม้ได้ ทรงผลรี รสชาติหวานและกรอบ สายพันธุ์เบา ให้ผลดกมาก และให้ผลยาวนานต่อเนื่อง ให้ผล1-2ผล/ข้อ ระหว่างข้อ(ใบ)8-10ซม. ผลยาว4-6ซม. น้ำหนักผล20-30 กรัม

แตงกวาจิ๋วเม็กซิกัน แตงโมจิ๋วเม็กซิกัน OP
อัตรางอก : 80%
อายุเก็บเกี่ยว สายพันธุ์เบา
ความยาวของผล 3 ซม.
วันที่ผลิต : มี.ค. 2022(อายุในการเก็บรักษา 36 เดือน) (สำหรับ 15 เมล็ด)
มิ.ย. 2023(อายุในการเก็บรักษา 36 เดือน) (สำหรับ 60 เมล็ด)
วันที่ผลิต : ก.ค. 2023(อายุในการเก็บรักษา 36 เดือน)(สำหรับ 110 เมล็ด)
เป็นไม้เลื้อย ความสูงของต้นประมาณ120-180ซม. ระหว่างผลประมาณ22-30ซม. ให้ผลผลิตได้1-2ปี ให้ผลผลิต 60-100ผล/ต้น ความยาวผลประมาณ 3 ซม.

แตงกวาไร้ค้าง ผลดก สายพันธุ์ OP (ประมาณ 70-80 เมล็ด)
อัตรางอก : 90%
อายุเก็บเกี่ยว สายพันธุ์เบา
วันที่ผลิต : เม.ย. 2023(อายุในการเก็บรักษา 24 เดือน)
พันธุ์เบา ไม่ต้องทำค้าง ดูแลง่าย ผลผลิตสูงมาก รสชาติดี หวานกรอบ

แตงร้านยักษ์ เปลือกลาย OP (ประมาณ 20 เมล็ด)
อายุเก็บเกี่ยว 90 วัน
วันที่ผลิต : เม.ย. 2022(อายุในการเก็บรักษา 24 เดือน)
ผลอ่อนออกสีเขียวอ่อน เหมือนแตงกวาทั่วไป ช่วงขยายผล สีเริ่มเปลี่ยน เมื่อผลแก่ ผลมีขนาดใหญ่ เจริญเติบโตดีมาก ให้ผลทุกข้อใบ ผิวสีเหลืองน้ำตาล มีลาย

แตงกวาจีน 60เมล็ด สายพันธุ์ OP
อายุเก็บเกี่ยว 55 - 95 วัน
วันที่ผลิต : ส.ค. 2023(อายุในการเก็บรักษา 24 เดือน)
ความยาวผล 20 -30 ซม. น้ำหนัก 100-200กรัม/ผล ผลสีเขียวอ่อน ผลสั้น รสชาติดี ต้านทานโรค ทนต่อการขนส่ง


แตงกวาญี่ปุ่น สายพันธุ์ OP (ประมาณ 60-70 เมล็ด) Japanese Cucumber (Jinyan No.4)
อัตรางอก : 90%
อายุเก็บเกี่ยว 45-75 วัน
ความยาวของผล 36 ซม.
วันที่ผลิต : ธ.ค. 2023(อายุในการเก็บรักษา 24 เดือน)
พันธุ์เบา ต้านทานโรค ผลผลิตสูงมาก ติดผลบนเถาหลักเป็นหลัก เถาแขนงก็ให้ผลได้ ผลยาว มีหนาม เปลือกสีเขียวเข้ม เนื้อสีเขียว หวานกรอบ รสชาติดี ระยะในการปลูก 60*28 ซม.

แตงกวาญี่ปุ่น สายพันธุ์ F1 (130+เมล็ด) Japanese Cucumbe
อัตรางอก : 90%
อายุเก็บเกี่ยว 45-75 วัน
ความยาวของผล 33 ซม.
วันหมดอายุ : 18 ธ.ค. 2025
ไว้ผลบนเถาหลัก กิ้งแขนงช่วงล่างเด็ดทิ้งทั้งหมด กิ่งแขนงช่วงกลางต้นขึ้นไป เมื่อติดผลแล้ว ไว้ใบแค่2ใบ เด็ดยอด

แตงกวาญี่ปุ่น สายพันธุ์ทนร้อน F1 (130+เมล็ด) Japanese Cucumbe
อัตรางอก : 90%
อายุเก็บเกี่ยว 45-75 วัน
ความยาวของผล 33 ซม.
วันหมดอายุ : พ.ย. 2024
ผลยาว 32-35 ซม. น้ำหนักผล ประมาณ 200กรัม ไว้ผลบนเถาหลัก ในการดูแลช่วงแรก กิ้งแขนงตั้งแต่ใบใบที่5ลงมาเด็ดทิ้งทั้งหมด กิ่งแขนงช่วงกลางต้นขึ้นไป เมื่อติดผลแล้ว ไว้ใบแค่2ใบ เด็ดยอด


แตงกวาญี่ปุ่นF8 สายพันธุ์ OP (200เมล็ด) Japanese Cucumbe
อัตรางอก : 90%
อายุเก็บเกี่ยว สายพันธุ์เบา
ความยาวของผล 30 ซม.
ความสูงของต้น 2 ม.
วันที่ผลิต : มิ.ย. 2023(อายุในการเก็บรักษา 24 เดือน)
ทนร้อนปานกลาง ต้านทารโรค

แตงกวาญี่ปุ่น สายพันธุ์ F1 (60+เมล็ด) Japanese Cucumbe
อายุเก็บเกี่ยว 45-70 วัน
วันที่ผลิต : ส.ค. 2023(อายุในการเก็บรักษา 24 เดือน)
เจริญเติบโตดีมาก ติดผลดีมาก ให้ผลนาน ผลทรงสวย เปลือกเขียวเข้ม เนื้อผลสีเขียวอ่อน หนามไม่ถี่ คุณภาพของเนื้อผลดีมาก


แตงกวาดัชสายพันธุ์ฮอลแลนด์ F1(20+ เมล็ด)
ความยาวของผล 16 ซม.
เส้นผ่านศูนย์กลาง Ø ≈ 2.5 ซม.
น้ำหนักผล ประมาณ 130 กรัม
วันที่ผลิต : ธ.ค. 2023(อายุในการเก็บรักษา 24 เดือน)


แตงกวาดัช F1(30+ เมล็ด)
ความยาวของผล 12-15 ซม.
น้ำหนักผล ประมาณ 80 กรัม
วันที่ผลิต : เม.ย. 2023(อายุในการเก็บรักษา 24 เดือน)

แตงร้านขาว 60-80 เมล็ด
วันที่ผลิต : ก.พ. 2023(อายุในการเก็บรักษา 24 เดือน)

วิธีเพาะเมล็ดทั่วไปที่มีเปลือกแข็ง เรียบเรียงโดย mpseeds
ก่อนเพาะเมล็ด ควรนำเมล็ดไปแช่ในน้ำอุ่นที่มีอุณหภูมิ45-50 ̊C (วิธีง่ายๆ ในการผสมน้ำอุ่น เอาน้ำเดือด 1 ส่วนผสมกับน้ำในอุณหภูมิห้อง 2 ส่วน ก็จะได้น้ำอุ่นประมาณ50 ̊C) เป็นเวลา5-8 ชม. หลังจากนั้นผึ่งลมในที่ร่ม เพื่อให้เมล็ดดูดความชื้นและออกซีเจนเข้าไป ทำลายการพักตัวของเมล็ด จึงนำไปหยอดลงในถาดหลุม หรือแปลงเพาะ ค่อยโรยวัสดุเพาะทับบางๆ ควานหนาของวัสดุที่โรยทับประมาณ1-2เท่าของความหนาเมล็ด หรือหนา0.5-1ซม. รดน้ำให้ชุ่ม วางถาดหลุมในที่ร่ม หมั่นรดน้ำรักษาความชื้นของวัสดุเพาะ
สำหรับเมล็ดที่มีราคาแพง เพื่อให้ได้อัตราการงอกที่สูง ควรมีการบ่มเมล็ด(วิธีควบแน่น)ก่อนเพาะ โดยเอากระดาษทิชชู่เปียก ห่อเมล็ดที่ผ่านการแช่น้ำแล้ว ใส่ในกล่องอาหาร/ถุงใส่ ปิดให้สนิท เก็บไว้ในอุณหภูมิห้อง (สำหรับเมล็ดผักที่ต้องการอุณหภูมิที่ต่ำในการงอก เช่นผักสลัด หรือผักเมืองหนาวต่างๆ ควรเอาเมล็ดที่บ่มไว้เก็บไว้ในช่องเก็บผักของตู้เย็น12-24 ชม. ค่อยเอาออกมาบ่มในอุณหภูมิห้องต่อ) เมื่อเมล็ดได้เริ่มแทงรากออกมาแล้วค่อยนำไปเพาะในถาดหลุมต่อ หลังจากต้นอ่อนได้มีใบจริง2คู่ จึงย้ายลงแปลงปลูก