เมล็ดมะเขือเทศเชอรี่ มะเขือเทศจิ๋ว 200เมล็ด/300เมล็ด CherryTomato/Pearl Tomato

มะเขือเทศเชอรี่ มะเขือเทศจิ๋ว มะเขือเทศไขมุก
ระยะเวลาในการงอก 7 - 10 วัน
อุณหภูมิที่เหมาะสมในการงอกคือ 16-28 ̊C
อุณหภูมิที่เหมาะสมในการเจริญเติบโตคือ15-28 ̊C (กลางวัน) 15-28 ̊C(กลางคืน)

#.1 มะเขือเทศลเชอรี่แดง มะเขือเทศดอยคำ มะเขือเทศจิ๋ว Cherry Tomato Red
จำนวน 300 เมล็ด
อัตรางอก : 85%
แสงแดด : เต็มวัน
ดินที่เหมาะสม : ดินร่วน / ร่วนปนทราย
ความหวาน ≥ 10.6 Brix.
วันหมดอายุ ：ต.ค. 2024
ลักษณะประจำพันธุ์:
สายพันธุ์เลื้อย. เจริญเติบโตดีมาก พันธุ์เบา 12-20ผล/ช่อผล ผลกลม สีแดงเข้ม รสชาติดี ต้านทานโรค ระยะในการปลูก 6000-7500ต้น/ไร่ . อุณภูมิที่เหมาะในการเจริญเติบโต 23-28 ̊C（กลางวัน) 15-28 ̊C(กลางคืน)

#.2 มะเขือเทศเชอรี่ม่วง มะเขือเทศจิ๋วสีม่วง Purple Cherry Tomato
จำนวน 100 เมล็ด
อัตรางอก : 85%
แสงแดด : เต็มวัน
ดินที่เหมาะสม : ดินร่วน / ร่วนปนทราย
น้ำหนักผล : ประมาณ 25 กรัม/ผล 8-10ผล/พวง
วันหมดอายุ ：ต.ค. 2024
ลักษณะประจำพันธุ์:
ต้านทานโรค ทนต่อการขนส่ง ผลทรงกลม เมื่อผลแก่ผลสีม่วง เนื้อหนา รสชาติดี หวานอมเปรี้ยว

#.3 มะเขือเทศลายเสือสีม่วง มะเขือเทศจิ๋วสีม่วง Purple Cherry Tomato สายพันธุ์ OP
จำนวน 200 เมล็ด
อัตรางอก : 85%
แสงแดด : เต็มวัน
ดินที่เหมาะสม : ดินร่วน / ร่วนปนทราย
น้ำหนักผล : 10-20 กรัม/ผล
วันที่ผลิต ：พ.ย. 2021 (อายุเก็บรักษา 36 เดือน)
ลักษณะประจำพันธุ์:
ต้านทานโรค ปลูกง่าย ทนต่อการขนส่ง ผลเหมือนไข่มุก เมื่อผลแก่สีม่วง สีสวย ความหวานสูง รสชาติดี หวานอมเปรี้ยว ระยะในการปลูก35*45ซม. 9600ต้น/ไร่ . อุณภูมิที่เหมาะในการเจริญเติบโต 23-28 ̊C（กลางวัน) 15-28 ̊C(กลางคืน)

#.4 มะเขือเทศเชอรี่สีดำ มะเขือเทศไข่มุกดำ Black Pearl Tomato
จำนวน 100 เมล็ด
อัตรางอก : 85%
แสงแดด : เต็มวัน
ดินที่เหมาะสม : ดินร่วน / ร่วนปนทราย
น้ำหนักผล : 30 กรัม/ผล
ความหวาน ≥ 10.6 Brix.
วันที่ผลิต ：มี.ค. 2022 (อายุเก็บรักษา 36 เดือน)
ลักษณะประจำพันธุ์:
ต้านทานโรค ปลูกง่าย ทนต่อการขนส่ง ผลเหมือนไข่มุก เมื่อผลแก่สีม่วงดำ สีสวย รสชาติดี หวานอมเปรี้ยว

#.5 มะเขือเทศไข่มุกดำไต้หวัน มะเขือเทศเชอรี่สีดำ Black Pearl Tomato
จำนวน 300 เมล็ด
อัตรางอก : 85%
แสงแดด : เต็มวัน
ดินที่เหมาะสม : ดินร่วน / ร่วนปนทราย
น้ำหนักผล : 15-20 กรัม/ผล 30ผล/พวง
ความหวาน ≥ 13 Brix.
วันที่ผลิต ：ม.ค. 2023 (อายุเก็บรักษา 36 เดือน)
ลักษณะประจำพันธุ์:
ต้านทานโรค ปลูกง่าย ทนต่อการขนส่ง ผลเหมือนไข่มุก เมื่อผลแก่สีม่วงดำ สีสวย รสชาติดี หวานอมเปรี้ยว

#.6 มะเขือเทศ สีรุ้ง
จำนวน 200 เมล็ด
อัตรางอก : 85%
แสงแดด : เต็มวัน
ดินที่เหมาะสม : ดินร่วน / ร่วนปนทราย
น้ำหนักผล : 150 กรัม/ผล 3-5ผล/พวง
ความหวาน ≥ 10.6 Brix.
วันที่ผลิต ：พ.ย. 2022 (อายุเก็บรักษา 36 เดือน)
ลักษณะประจำพันธุ์:
สายพันธุ์เบา พันธุ์เลื้อย ต้านทานโรค ปลูกง่าย ผลแดง เมื่อผลสุก มีลายสีรุ้ง เขียว-เหลือง สีสวย รสชาติดี หวานอมเปรี้ยว

#.7 มะเขือเทศแฟนาซี มะเขือเทศมินิมิกส์ Cherry Tomato Seed Mix
จำนวน 200 เมล็ด
อัตรางอก : 85%
แสงแดด : เต็มวัน
ดินที่เหมาะสม : ดินร่วน / ร่วนปนทราย
น้ำหนักผล : 15-20 กรัม/ผล 30ผล/ช่อผล
ความหวาน ≥ 10.6 Brix.
วันที่ผลิต ：ก.พ. 2022 (อายุเก็บรักษา 36 เดือน)
ลักษณะประจำพันธุ์:
ต้านทานโรค ปลูกง่าย ผลไม่แตกง่าย ทนต่อการขนส่ง ผลเหมือนไข่มุก สีสวย มีสีแดง เหลือง ม่วง เขียว ฯ รสชาติดี หวานอมเปรี้ยว

จากการวิจัยของนักโภชนาการพบว่าการบริโภคมะเขือเทศสดวันละ 50 กรัม -100 กรัมต่อคน สามารถตอบสนองความต้องการของร่างกายมนุษย์สำหรับวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ มะเขือเทศมีสาร ไลโคปีน ซึ่งมีฤทธิ์ในการยับยั้งแบคทีเรียกรดมาลิกกรดซิตริกและน้ำตาลที่มีอยู่สามารถช่วยในการย่อยอาหาร มะเขือเทศอุดมไปด้วยสารอาหารและมีหน้าที่มากมายซึ่งเรียกว่าผลไม้แห่งจานวิเศษ กรดอินทรีย์เช่นกรดมาลิกและกรดซิตริกในมะเขือเทศยังเพิ่มความเป็นกรดของน้ำย่อยช่วยย่อยอาหารและปรับการทำงานของระบบทางเดินอาหาร มะเขือเทศมีกรดผลไม้ซึ่งสามารถลดปริมาณคอเลสเตอรอลและเป็นประโยชน์อย่างมากต่อภาวะไขมันในเลือดสูง มะเขือเทศอุดมไปด้วยวิตามินเอวิตามินซีวิตามินบีวิตามินบีแคโรทีนแคลเซียมฟอสฟอรัสโพแทสเซียมแมกนีเซียมเหล็กสังกะสีทองแดงและไอโอดีนนอกจากนี้ยังมีโปรตีน้ำตาลกรดอินทรีย์และเซลลูโลส.


วิธีการเพาะกล้า
1. การบ่มเมล็ด : นำเมล็ดพันธุ์มะเขือเทศ แช่ในน้ำอุ่น 50 องศา ผสมน้ำยาเร่งรากแบบเจือจางและเชื้อราไตรโคเดอร์มา (ป้องกันโรคจากเชื้อรา) แช่ทิ่งไว้ 30นาที นำเมล็ดมาวางในกระดาษเพาะกล้าหรือผ้าขาวบางชุบน้ำมาดๆ (ไม่ควรวางหนาแน่นเกินไป) แล้วจึงห่อเมล็ดห่อกระดาษเพาะเมล็ดอีกครั้งด้วยถุงพลาสติกใสหรือถุงใส่แกง เก็บในที่อุณหภูมิ 25- 30 องศาเซลเซียส โดยใส่ในภาชนะที่มิดชิด เช่น กระติกน้ำเพื่อรักษาอุณหภูมิ นานประมาณ 24 ชั่วโมง
2. การเพาะกล้า : บรรจุวัสดุเพาะกล้า (พีทมอส) ลงในถาดเพาะกล้าขนาด 104 หลุม ไม่แน่นเกินไป รดน้ำให้ชุ่ม นำเมล็ดจากการบ่ม มาหยอดลงในถาดเพาะโดยวางให้เมล็ดอยู่ในแนวนอนทำมุมประมาณ 45 องศา และปลายรากแทงลงวัสดุเพาะ ระวังอย่าให้รากอ่อนของเมล็ดหักหรือแห้ง กลบด้วยวัสดุเพาะกล้า แล้วกดทับเบาๆ รดน้ำให้ชุ่ม นำไปเก็บในโรงเรือนเพาะกล้า หรือบริเวณที่มีแสงแดด รดน้ำทุกวัน เพื่อให้วัสดุเพาะกล้าชุ่มอยู่เสมอ จนอายุกล้าได้ 25-30 วัน
3. การย้ายกล้า : ควรย้ายกล้าเมื่อมีใบแท้ 4-5 ใบ หรืออายุไม่เกิน 25-30 วัน หลังจากหยอดเมล็ด