หนังสือ สาปนั้นคืนสนอง/ระบำเปิดประตูนรก/ขอความตายจงร่ายรำ/ศพหมื่นองศา ผู้เขียนDouglas Preston&Lincoln Child

#สาปนั้นคืนสนอง Still Life with Crows (ปกใหม่)

ลึกเข้าไปในไร่ข้าวโพดรกร้างของรัฐแคนซัส
พบร่างหญิงสาวนอนแผ่ในลักษณะบิดเบี้ยว
ริมฝีปาก จมูก และใบหูถูกเฉือนหายไป
รอบตัวมีลูกธนูโบราณเสียบซากอีกาหลายสิบตัวปักไว้
รูปแบบการฆ่าเหมือนพิธีกรรมของชนพื้นเมืองโบราณ
เมื่อร้อยปีก่อนที่ตรงนี้เคยเป็นสมรภูมิสังหารหมู่ชาวอินเดียนแดงจำนวนมาก
ก่อนตายนักรบคนสุดท้ายได้สาปส่งผู้ที่ล่วงล้ำพื้นที่แห่งนี้ให้ต้องมีอันเป็นไป
ขณะที่เจ้าหน้าที่เอฟบีไอ เพนเดอร์แกสต์ เข้ามาไขคดี
กลับมีศพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกรายล้วนตายในสภาพพิสดารเหนือธรรมชาติ
เพนเดอร์แกสต์เริ่มไม่แน่ใจว่ากำลังต่อกรอยู่กับอะไร
ทางเลือกเดียวของเขาคือต้องสืบย้อนกลับไปยังเหตุการณ์เมื่อร้อยปีก่อน
หารู้ไม่ว่าการทำเช่นนั้นกำลังก้าวล่วง “คำสาป” ของใครบางคน...
คนที่รอคอยเวลาลงทัณฑ์ผู้ที่ล่วงล้ำเข้ามาให้สาสม

# ระบำเปิดประตูนรก (Cemetery Dance)
นักข่าวชื่อดังถูกพบเป็นศพสภาพถูกแทงทะลุหัวใจ ในที่เกิดเหตุมีภาพงูร่ายรำและอักขระโบราณเขียนด้วยเลือดอยู่บนผนังพยานนับสิบรายให้การตรงกัน“คนร้ายร่างโชกเลือด ใบหน้าบวมอืด
โชยกลิ่นเน่าเหมือนซากศพเดินได้”
เจ้าหน้าที่เอฟบีไอ เพนเดอร์แกสต์ เข้ามาทำคดีและพบเรื่องประหลาดทันทีคนร้ายรายนี้ฆ่าตัวตายไปเมื่อสองสัปดาห์ก่อนแต่ศพของเขากลับหายไปจากสุสานอย่างเป็นปริศนาคดีแรกยังไม่ทันปิด เหยื่อรายที่สองก็ถูกฆ่าด้วยฝีมือ “คนตาย” อีกคน
เพนเดอร์แกสต์ไล่ล่าคนร้ายมาแล้วทุกหนทุกแห่งแต่คราวนี้เมื่อฆาตกรคือคนที่ตายไปแล้ว
ทางเดียวที่จะไขคดีได้คือต้องลงไปในหลุมโลกันตร์ที่ซึ่งไม่เคยมีใครได้กลับออกมาแม้แต่คนเดียว!ประตูนรกเปิดแล้ว

#ขอความตายจงร่ายรำ Dance of Death

เกิดเหตุการตายพิสดารสองศพ
ศพแรกฉีกทึ้งใบหน้าและควักลูกตาตัวเอง
ศพที่สองแขวนคอจากตึกสูงร่วงลงมากลางร้านอาหาร
ก่อนตายทั้งคู่บิดร่างไปมาราวกับกำลังร่ายรำ

ที่น่าแปลกคือ รูปแบบการตายดูคล้ายกับบรรพบุรุษ
เมื่อร้อยปีก่อนของเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ เพนเดอร์แกสต์
ผู้ซึ่งเป็นคนสนิทของพวกเขา

เรื่องราวในตระกูลมีเพียงสองคนที่รู้...
คนหนึ่งคือเพนเดอร์แกสต์
และอีกคนคือน้องชายของเขาที่ตายไปแล้ว

คนใกล้ตัวเพนเดอร์แกสต์ทยอยเสียชีวิตทีละคน
แต่ละคนตายแบบประหลาดและอำมหิตผิดมนุษย์
ใครหน้าไหนก็อย่าคิดจะหยุดยั้ง ขอความตาย...จงร่ายรำ

#The Book of the Dead จงตายตกตามอักษร
ลึกลงไปที่ชั้นใต้ดินของพิพิธภัณฑ์นิวยอร์ก
สุสานอียิปต์ถูกปลุกให้คืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง
พร้อมคำสาปแช่งหลายพันปีที่ถูกมองข้าม
แต่หลังจากเปิดสุสานได้เพียงไม่กี่วัน
กลับเกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นมากมาย
ทั้งเสียงฝีเท้าปริศนาในห้องเก็บมัมมี่
คนงานคลุ้มคลั่งอย่างไร้สาเหตุ
และพบศพเจ้าหน้าที่ในโลงหินเก่าแก่
อวัยวะภายในหายไปทั้งยวงเหมือนถูกทำมัมมี่
เจ้าหน้าที่เอฟบีไอ เพนเดอร์แกสต์
คือคนเดียวที่สามารถรับมือกับคดีลี้ลับเช่นนี้ได้
แต่กุญแจไขปริศนาซ่อนอยู่ในสุสาน
ที่ซึ่งอำนาจลึกลับลงทัณฑ์ผู้ก้าวล่วงด้วยความตาย
แม้นผู้ใดท้าทายอำนาจนั้น จงตายตกตามอักษร

#ศพหมื่นองศา (Brimstone)(ปกใหม่)
“มันกำลังมาเอาตัวฉัน! ฉันอยากสารภาพบาป”
นั่นคือข้อความเสียงที่เจเรมีฝากไว้ก่อนถูกพบเป็นศพ
สภาพร่างกายดูปกติ ไม่มีบาดแผลใดๆ
แต่อวัยวะภายในกลับถูกแผดเผาจนสุกไปทั้งตัว!

ไอร้อนระอุ กลิ่นกำมะถัน และรอยเท้าสัตว์
หลักฐานในที่เกิดเหตุบ่งชี้ว่านี่ไม่ใช่ฝีมือมนุษย์
แต่เป็นบางสิ่งที่เหนือธรรมชาติ...และโหดเหี้ยมกว่ามนุษย์มาก
บางสิ่งที่ทำให้อุณหภูมิในร่างกายมนุษย์
พุ่งจากร้อย...พัน...ทะลุหมื่นองศา
เจ้าหน้าที่เอฟบีไอ เพนเดอร์แกสต์ เข้ามาสืบคดีและพบว่า
เหยื่อเคยเข้าร่วมพิธีกรรมลึกลับบางอย่าง
และคนกลุ่มนั้นก็ทยอยล้มตายด้วยสาเหตุเหนือธรรมชาติกันหมด
โดยเฉพาะศพล่าสุดที่ไม่เพียงตายในสภาพสยดสยอง
แต่ยังส่งคำเตือนถึงเพนเดอร์แกสต์โดยตรง
“อย่าเข้ามาขวางข้า ถ้าไม่อยากถูกไฟนรกแผดเผาไปอีกคน!”

#The Wheel of Darkness กงล้อจิตอาฆาต
“เพื่อมิให้แปดเปื้อนความชั่วร้ายจากกงล้อแห่งอนธการ
ห้ามเปิดผนึกโดยเด็ดขาด”
นั่นคือข้อความปิดผนึกวัตถุโบราณอายุนับพันปี
ที่หายไปจากอารามศักดิ์สิทธิ์ในทิเบต
ไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไร รู้แค่ว่ามันบรรจุความชั่วร้าย
ที่ห้ามหลุดออกสู่โลกภายนอกเป็นอันขาด
เจ้าหน้าที่เอฟบีไอ เพนเดอร์แกสต์ ตามหาวัตถุปริศนาชิ้นนี้
จนพบว่ามันถูกนำขึ้นเรือเดินสมุทรลำหรูไปยังนิวยอร์ก
แต่เมื่อเรือแล่นออกจากท่าไปแล้วกลับเกิดเหตุลึกลับมากมาย
ผู้โดยสารทยอยหายไปตัวไปอย่างเป็นปริศนา
แม่บ้านคลุ้มคลั่งจนควักลูกตาตัวเอง
คนบนเรือถูกคว้านอวัยวะภายในทิ้งไว้แต่ไม่พบศพ
ในหมู่ผู้โดยสารและลูกเรือกว่าสี่พันชีวิต
เพนเดอร์แกสต์ต้องหาคนที่ครอบครองวัตถุมรณะชิ้นนี้
และหยุดยั้งไม่ให้มันไปถึงแผ่นดินอเมริกา
มิฉะนั้น ชีวิตผู้บริสุทธิ์นับล้านอาจถึงคราวดับสูญ
แต่เพนเดอร์แกสต์ก็ไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือไม่
เพราะตอนนี้เขาเป็นอีกคนที่เริ่มคลุ้มคลั่ง...
หรือสิ่งที่ไม่ควรมีใครเห็นได้ถูกเปิดผนึกออกแล้ว?
รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : The Wheel of Darkness กงล้อจิตอาฆาต
จากจุดเริ่มต้น ณ อารามศักดิ์สิทธิ์บนเทือกเขาสูงในทิเบต
สู่จุดสิ้นสุดท่ามกลางมหาสมุทรแอตแลนติกเวิ้งว้าง
ขอเชิญพบกับคดีสุดพิศวงที่ทำให้เจ้าหน้าที่เอฟบีไอ
เพนเดอร์แกสต์ ถึงกับสะท้าน
เพราไม่เพียงต้องรับมือกับคนร้ายที่วิปริตสุดขั้ว แต่เขายังต้อง
ไขปริศนาเกี่ยวกับพลังอำนาจลึกลับที่มีชีวิตคนทั้งโลกเป็นเดิมพัน!
The Wheel of Darkness หรือในชื่อภาษาไทยว่า กงล้อจิตอาฆาต
เปิดฉากเมื่อเพนเดอร์แกสต์เดินทางไปฝึกสมาธิที่อารามลึกลับแห่งหนึ่ง
ในทิเบต แต่กลับถูกขอให้ช่วยตามหาโบราณวัตถุชิ้นหนึ่งซึ่งโดนขโมย
ไปไม่มีใครรู้ว่าวัตถุนั้นคืออะไร รู้เพียงแค่ว่ามันถูกปิดผนึกไว้นานนับพันปี
พร้อมคำเตือนที่ดูคล้ายคำสาป...
เพื่อมิให้แปดเปื้อนความชั่วร้ายจากงล้อแห่งอนธการ ห้ามเปิดผนึกโดย
เด็ดขาด เมื่อรู้ว่าวัตถุปริศนาถูกนำขึ้นเรือเดินสมุทรที่มุ่งหน้าสู่นิวยอร์ก
เพนเดอร์แกสต์จึงตามเบาะแสไปทันที แต่หลังจากเรือออกเดินทาง