บันทึกจากหุบเขาฝนโปรยไพร-สภาพเก่าตามกาลเวลา
หากจะมีนักเขียนไทยสักคนที่จริงจัง เดิมพันชีวิตกับทุกอย่างเพื่องานเขียน อุทิศตนและชัดเจนในแนวทางแห่งเรื่องสั้นและบทกวี
.
ชื่อ “กนกพงศ์ สงสมพันธุ์” คือนักเขียนลำดับต้นๆ ที่ผุดพรายขึ้นในใจ
.
งานเขียนของเขาคือความงามของตัวอักษรผนวกความจริงจังของชีวิต พรรณนาเรื่องเล่าอย่างมีเลือดเนื้อ ตัวละครโลดแล่นบนหน้ากระดาษ คล้ายนาฏกรรมแห่งชีวิตแสดงอยู่ตรงหน้าราวกับเหตุการณ์จริง
.
เจ้าของรางวัลซีไรต์ปี พ.ศ.2539 จาก รวมเรื่องสั้น “แผ่นดินอื่น” เคยเปรยไว้ว่าไม่ค่อยถนัดงานเขียนในรูปแบบอื่นมากนัก นอกเหนือจาก “เรื่องสั้น” และ “บทกวี” และถ้าหากไม่ใช่กัลยามิตรนักเขียนด้วยกันอย่าง “ขจรฤทธิ์ รักษา” ร้องขอ เราคงไม่มีโอกาสได้เห็นงานเขียนในรูปแบบอื่นใดจากนักเขียน “ผู้ทระนงตน” คนนี้ อย่างแน่นอน
.
“บันทึกจากหุบเขาฝนโปรยไพร” จึงมีความพิเศษ เพราะนี่คืองานเขียนในรูปลักษณ์ “ความเรียงเชิงทัศนะ” เปรียบเสมือนเป็นอัตชีวประวัติกลายๆ ที่บอกเล่าเรื่องราว มุมมองและทัศนะคติต่อชีวิตและงานเขียนเจือด้วยอารมณ์ขันขื่นและจริงจัง อันเป็นลักษณะเฉพาะ “แบบกนกพงศ์” ได้อย่างลงตัว
.
“บันทึกจากหุบเขาฝนโปรยไพร โดย กนกพงศ์ สงสมพันธุ์” ถือเป็นงานเขียนที่มีคุณค่า นี่คือ “คำบอกเล่า” จากต้นแบบ “นักเขียน” ผู้ปฏิภาณถึงหน้าที่เดียวในชีวิตคือประสบกับเหตุการณ์และกลั่นกรองออกมาเป็น “งานเขียน” ที่ร้อยเรียงเรื่องราวของ “คนและโลก” ได้อย่างมีชีวิตชีวาที่สุดคนหนึ่งบนบรรณพิภพไทย.