นักเดินเรือสู่ทุ่งหญ้า (หนังสือเก่ารับตามสภาพ)
ดีเอ็นเอ ของนักเขียนส่วนใหญ่ มิใช่ผู้ที่มีความสุขกับการใช้ชีวิตเลื่อนไหลไปกับคลื่นสังคมกระแสหลัก พวกเขาสะสมเรื่องรำคาญใจ เป็นผู้มีปัญหาทางสายตา นิยมหาเหตุวิวาทกับเรื่องราวที่พบเห็น อีกทั้งยังหมั่นเพียรในการทะเลาะกับเสียงรุงรังที่ผ่านเข้าโสตประสาท ภายใต้ความหงุดหงิดสงสัยโลกรอบข้าง คนหนุ่มสาวที่ตัดสินใจนั่งลงทำงานเขียนมักมีความรู้สึกว่า เรื่องเล่าเท่าที่มีอยู่ไม่ตอบสนองสิ่งที่ตนเองอยากจะพูด
ดังนั้นแล้ว การประเมินคุณค่าเรื่องราวที่คนหนุ่มสาวเหล่านี้พูด จึงไม่น่าจะใช้ระบบวินิจฉัยว่ามันถูกหรือผิด ที่เราพอทำได้คือ พิจารณามันให้ฐานะเสียงกู่ตะโกนอันสะท้อนถึงความทุรนทุรายของปัจเจกบุคคลที่หายใจและมีชีวิตอยู่ในสังคมยุคหนึ่งสมัยหนึ่ง หรืออาจจะพูดอย่างที่นิยมกล่าวต่อๆ กันมาก็ได้ว่า มันเป็นการบันทึกอารมณ์ความรู้สึกของยุคสมัย ถ้อยคำทำนองนี้ฟังดูเชยสิ้นดี แต่ข้อเท็จจริงมีอยู่ว่าอารมณ์ทะเยอะทะยานที่จะทะเลาะเบาะแว้งกับโลกอย่างซื่อตรงนั้น มักจะเกิดขึ้นเฉพาะในวัยหนุ่มสาว มันเหมือนฤดูกาลหนึ่งของชีวิต ซึ่งสำหรับหลายคนแล้ว ทั้งชีวิตฤดูกาลดังกล่าวพัดผ่านเข้ามาเพียงครั้งเดียว