ต้นตะขบป่า ตะขบยักษ์ (Flacourtia Indica) กิ่งตอน พร้อมติดดอกติดผล ไม้ป่าโบราณ ผลรับประทานได้ (รับประกันสินค้า)
ชื่อ – ชนิด พันธุ์
ตะขบยะกษ์ หรือ หมักเบ็นเบนโคกตานเสี้ยนมะแกว๋นนกมะแกว๋นป่ามะเกว๋นตะเพซะบีหล่อเหมาะ ตุ๊ดตึ๊นลำเกว๋นมะขบ
ชื่อวิทยาศาสตร์
Flacourtia Indica
ประวัติ
ตะขบยักษ์ นั้น เดิมค้นพบที่ ต.ดงกลาง อ.เมือง จ.พิจิตร ซึ่งจัดเป็นพันธุ์ตะขบที่หายาก ต้นแม่มีอายุมากกว่า 30 ปี ต่อมาก็ได้ขยายพันธุ์ออกมาซึ่งพบว่า “ตะขบยักษ์” นั้น มีลักษณะพิเศษ คือ ลำต้นหรือกิ่งก้านไม่มีหนามเลย ใบกลมใหญ่ ผลมีขนาดใหญ่ เมล็ดน้อยประมาณ 5-6 เมล็ด ผลสุกรสชาติหวานจัด ทานอร่อย
รูปร่าง รูปทรง ( ต้น ราก ใบ ดอก ผล )
ต้นตะขบจัดเป็นไม้พุ่มเนื้ออ่อน ประเภทไม้ยืนต้นโตเร็ว มีลำต้นเหยียดตรง เปลือกลำต้นสีเทา ลักษณะบางไม่แตกสะเก็ดแม้จะมีอายุมากแล้วก็ตาม เมื่อโตเต็มที่จะสูงประมาณ 5-10 เมตร แตกกิ่งก้านขนานกับพื้นดิน ตามกิ่งอ่อนจะมีขนนุ่มขึ้นปกคลุมทั่วบริเวณ
รากของตะขบ เป็นระบบรากแก้ว ลึกในพื้นดินประมาณ 1 เมตร มีรากแขนงแตกออกด้านข้างซึ่งมีความยาวได้มากกว่าพุ่มของต้น อาจยาวได้ถึง 10 เมตร โดยรากแขนงนี้หากแทงขึ้นพ้นพื้นดินและสัมผัสกับอากาศจะสามารถแตกยอดเป็นต้นใหม่ได้
ใบตะขบเป็นพืชใบเลี้ยงคู่ ใบจะแทงออกจากกิ่งและเรียงสลับวนกันไปตามกิ่งแขนง มีก้านใบสั้น ๆ สีเขียว รูปใบจะเป็นรูปไข่ ขอบหยักมีปุ่ม ๆ เหมือนฟันเลื่อย ปลายใบแหลม มีขนปกคลุม เห็นเส้นใบชัดเจน ขนาดความกว้างประมาณ 2-4 ซม. และยาวประมาณ 5-10 ซม.
ดอกตามบริเวณซอกใบจะเป็นพื้นที่สำหรับดอกตะขบแทงออก โดยดอกตะขบที่พบจะเป็นดอกเดี่ยวหรือดอกคู่ ดอกมีสีขาวอยู่บนกลีบเลี้ยงสีเขียวและมีก้านดอกยาวประมาณ 1-5 ซม. ประกอบด้วยกลีบดอกประมาณ 5-6 กลีบ ตรงกลางจะพบเกสรตัวผู้สีเหลืองนวลจำนวนมาก ห้อมล้อมรังไข่ที่ต่อไปจะเจริญเติบโตเป็นผลตะขบ
ผล เป็นรูปทรงกลม ผลโตเต็มที่เกือบเท่าผลมะนาว หรือลูกปิงปอง ผลดิบสีเขียว สุกเป็นสีแดงคล้ำ หรือ สีม่วงดำ เนื้อรสหวานหอม มีเมล็ด 5-8 เมล็ด
ความสูงเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่
สูง 5 – 10 เมตร
ความกว้างทรงพุ่มเมื่อโตเต็มที่
ทรงพุ่มกว้าง 3 – 5 เมตร
ความต้องการแสง
ต้องการแดด 100 %
ความต้องการน้ำ
ช่วงแรกให้รดน้ำทุกวัน วันละ 1 ครั้ง พอต้นกล้าโตพอประมาณ 4 – 5 เดือนให้ลดน้ำ 4 – 5 วัน/ครั้ง
ชอบดินประเภท
ชอบดินร่วน
ประโยชน์การใช้สอย
ผลสุกมีรสหวาน ใช้รับประทานได้ มีวิตามินซีสูง
เนื้อไม้ใช้ในการก่อสร้างบ้านเรือน ใช้เป็นโครงสร้างต่าง ๆ ของบ้าน เช่น เสาบ้าน ฯลฯ หรือใช้ทำด้ามเครื่องมือกสิกรรม
การเก็บเกี่ยว
ออกดอกติดผลมากที่สุดในช่วงเดือนสิงหาคม – เดือนกันยายน
การขยายพันธุ์
การเพาะเมล็ด การตอนกิ่ง