ดีเกลือฝรั่ง MgsO4 & 15-0-0 แคลเซียมไนเตรท แบ่งจำหน่าย 1 Kg.
MgSO4.7H2O Magnesium Sulphate Heptahydrate แมกนีเซียมซัลเฟต (ประกอบด้วยธาตุ Mg 10%) ละลายน้ำได้ดี และสามารถดูดซึมไปใช้ได้ทั้งทางรากและทางใบ
แมกนีเซียม (MgO 16%) 10%
กำมะถัน S 16%
อัตราการใช้ : อัตราการใช้ 100-200 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร (1-2 กก.ต่อน้ำ 200 ลิตร)
ฉีดพ่นทุก 7-10 วัน(ไม่ควรฉีดพ่นเวลาแดดร้อนจัด) สามารถละลายน้ำได้ง่าย
ไม่ตกตะกอนและพืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารไปใช้ได้ทันที
ประโยชน์: ช่วยป้องกันและรักษาอาการขาดธาตุแมกนีเซียม ทำให้ใบพืชมีความแข็งแรง ทนทานเพิ่มคลอโรฟิลส์ให้แก่พืช ผลผลิตมีคุณภาพ น้ำหนักดี
รายละเอียดสินค้า
แคลเซียม (Calcium)เป็นธาตุที่มีอยู่ในผิวโลกประมาณ 3.6 % ที่ เป็นองค์ประกอบของผนังเซลล์พืช ทำให้ต้นพืชมีความแข็งแรง และยังช่วยสร้างเนื้อเยื่อพืชและต้นพืช ช่วยกระตุ้นให้พืชสร้างผนังเซลล์ใหม่ แบ่งเซลล์ แคลเซียม ช่วยลดอัตราการชำรุดของผนังเซลล์ จึงทำให้พืชทนต่อการเข้าทำรายของแมลงและเชื้อโรคต่างๆ แคลเซียม ยังจะช่วยชะลอการเสื่อมแก่ของพืช การสุกของผลไม้ การดูดซึม แคลเซียม ของพืชจะเกิดขึ้นบริเวณปลายราก ปัจจัยที่ทำให้พืชดูดซึม แคลเซียม ได้น้อย เช่น ระบบราก ที่มีการระบายอากาศไม่ดีหรือ อุณภูมิต่ำช่วงนั้นต่ำกว่าปกติ
บทบาท แคลเซียมในพืชมีดังนี้
1.เป็นส่วนประกอบของผนังพืช โดยอยู่ในรูปเกลือแคลเซียมเพกเทต จึงมีบทบาทสำคัญในการสร้างผนังเซลล์ใหม่ของพืช และยังมีความจำเป็นในการแบ่งเซลล์ การขาดธาตุ แคลเซียม จะแสดงออกทางเนื้อเยื่อเจริญก่อน เพราะเป็นบริเวณที่มีการแบ่งตัวมากที่สุด
2. มีบทบาทด้านชะลอการเสื่อมแก่ การสุกของผลไม้
3. มีบทบาทต่อหน้าที่และโครงสร้างของเยื่อเซลล์ เพราะ แคลเซียม มีผลทำให้เยื่อหุ้มเซลล์มีความเสถียรภาพ ถ้าพืชได้รับ แคลเซียมไม่เพียงพอจะทำให้เกิดการรั่วไหลของสารอาหารต่างๆได้
4.มีบทบาทต่อการงอกของเมล็ดและการเจริญของเกสรของพืช แคลเซียม จะช่วยทำให้การงอกของเมล็ดดีขึ้นและการยืดตัวของหลอดเรณู
5. มีบทบาทต่อการ เปิด-ปิดของปากใบ และช่วยสังเคราะห์ซูโครสเพื่อกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ต่างๆ
อาการขาดธาตุ แคลเซียม
พืชที่ขาดธาตุ แคลเซียม จะแสดงอาการบริเวรเนื้อเยื่อที่กำลังเจริญเติมโต เช่น ยอด ตา และ ช่อดอก โดยเนื้อเยื่อบริเวณดังกล่าวจะแสดงอาการแห้งตาย จะมีอาการออกดอก และ ติดผลน้อย ปลายใบและขอบใบไหม้ ส่วนอ้อยที่ขาด แคลเซียม จะมีลำผอมเรียวและเปลือกไม่แข็ง ข้าวโพดใบอ่อนจะไม่คลี่ออกเต็มที่ปลายใบจึงโค้งลงและติดกันเป็นกระจุก