ณ บ้านวรรณกรรม หนังสือ ไวษณวี / ทมยันตี
รายละเอียดสินค้า
ชื่อเรื่อง: ไวษณวี
บทประพันธ์โดย ทมยันตี
ประเภท: จิตวิญญาณ/พุทธศาสตร์/นิยายแห่งธรรม
ปกอ่อน สองเล่มจบ
จำนวนหน้า: 830 หน้า
Edition: (03/2564)
ISBN (ปกอ่อน): 978-616-573-0242
ISBN (ปกแข็ง): 978-616-573-0426
คำนำ
“มนุษย์เชื่อทุกเรื่องที่นักวิทยาศาสตร์บอก แต่มนุษย์ไม่ยอมเชื่อพระพุทธเจ้า ทั้งๆ ที่ท่านรับสั่งทิ้งไว้แล้วว่า...อย่าเชื่อโดยไม่พิสูจน์ มนุษย์ไม่พิสูจน์แล้วก็ไม่เชื่อ ผู้เขียนพิสูจน์แล้วเชื่อโดยไม่มีข้อสงสัย
แต่ปัญหาคือทำอย่างไรจะอธิบายต่อผู้อื่น
การผูกในรูปนวนิยายจึงพยายามกระทำในหลายแง่มุม เช่น ฌาน จิตา จนกระทั่งถึงมายา”
(ปัจฉิมบท ในนวนิยายเรื่อง ‘มายา’ ของทมยันตี)
ฌาน นำความเชื่อแห่งพระพุทธศาสนา มาอธิบายด้วยแนวฟิสิกส์วิทยาศาสตร์ ในขณะที่จิตา (JITA) ซึ่งมีรากเหง้าเป็นภาษาสันสกฤต แปลว่า ป่าช้า ได้อธิบายเรื่องของ ‘พลังแห่งจิต’ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับผู้สนใจที่จะทำความเข้าใจ...
“จิตเท่านั้นเป็นใหญ่เป็นประธาน ทุกขันธ์แห่งกายหยาบแตกหัก กลับคืนสู่ธาตุเดิม พลังแห่งจิตเท่านั้นยังคง มนุษย์รู้จักสิ่งอื่นทั่วถ้วน หาก ‘กาย’ ตนสิหารู้ไม่ สิ่งใดเล่าซ่อนอยู่ สิ่งใดทรงอานุภาพ วัฏฏะ วนเวียนเกิด-ดับ เพราะจิตที่ข้องด้วยตัณหายึดเหนี่ยว และกิเลสนำให้เศร้าหมอง กุญแจที่จะไขพลังนั้นมาใช้มีประการเดียว จิตา!”
(บางส่วนจากนวนิยายเรื่อง ‘จิตา’)
ทมยันตีมีความตั้งใจแน่วแน่ว่า...ก่อนที่ตนเองจะ ‘กลับบ้าน’ จะพยายามถ่ายทอดความรู้ในพุทธปรัชญา และเทวศาสตร์ที่พอมีอยู่บ้าง ลงในรูปของนิยายเท่าที่สติปัญญาพอมีพอทำ แม้การอธิบายในศาสตร์ทั้งสองนั้นจะเป็นเรื่องที่หนักใจพอสมควร ทว่าได้พยายามกระทำเพราะอานิสงส์จะบังเกิดทั้งผู้อ่านและผู้เขียน
และนวนิยายเรื่อง ‘มายา’ ได้ทำหน้าที่สื่อพุทธปรัชญาในหัวข้อ ‘วิญญาณคืออะไร?’ วิทยาศาสตร์ได้สอนปรัชญา ที่ใดมี ‘ผล’ จะสาวไปหา ‘เหตุ’ จนได้ เมื่อรู้ ‘ทุกข์’ ศาสนาให้หาเหตุแห่งทุกข์ ไม่ต้องการให้มีทุกข์...ต้องดับที่เหตุ
วิทยาศาสตร์ ปรัชญา ศาสนา ผสมผสานให้ข้อพิสูจน์แก่กัน หากมองตนและสรรพสิ่งรอบตนว่าเป็นแค่ ‘กลุ่มก้อนแห่งเหตุการณ์’ ตามทฤษฎีควอนตัมทางฟิสิกส์ โลกมนุษย์เป็นแค่ ‘สนามพลังงาน’ เป็นธุลีของธาตุ...เป็นอนุภาคมารวมกัน หากแยกสลายย่อยลง จำนวนที่ได้คงไม่เกินสองลิตรเท่านั้น
นี่เอง พระพุทธศาสนาจึงย้ำคำว่า ‘ว่าง’ ไม่มีอะไรในโลกมีคุณค่าพอจะทำให้สุข-ทุกข์
ภาพ...เหตุการณ์ที่อุบัติเป็นแค่ ‘มายา!’
จวบจนมาถึงบัดนี้...วันนี้ ทมยันตีนำนวนิยายแห่งธรรม ‘ไวษณวี’ ที่น้อมนำแก่นแห่งพุทธปรัชญาและเทวศาสตร์ มาสานและเสริม เพื่อสร้างความเข้าใจให้ผู้สนใจในสองศาสตร์นี้ได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น...
ยโต ธรฺมสตฺโต ชยะ
ที่ใดมีธรรม ที่นั่นย่อมมีชัย...
โอม ไวษณวี!
มนุษย์ทุกคนเมื่อจะเกิด เขาจะรู้ว่า เขารับหน้าที่สำคัญติดตัวมาด้วยประการหนึ่ง ไม่ว่าเป็นคนดี-คนเลว-รวย-จน รับหน้าที่เสมอกันหมดคือ ‘ตาย’
คนทุกคนจึงเป็นนักโทษประหาร รอวันถูกประหารตามคำพิพากษาที่ยาว-สั้นแตกต่างกัน รวมทั้งวิธีถูกประหาร สถานที่ถูกประหาร ก็แตกต่างกัน
สิ่งที่เสมอกันคือ ‘ตาย’ เท่านั้น
แล้วจะกลัวความตายของเรา ของคนอื่นไปทำไม
ใครจะทำหน้าที่นี้ก่อนเขาก็ทำไป เรารอแต่หน้าที่ของเรา ระวังอย่างเดียว...ระวังหลังความตาย เส้นทางที่จะไปต่างหากไม่เหมือนกัน ทุกข์ที่สุดของมนุษย์ คือการพลัดพราก แต่เคยมีมนุษย์คนใดบ้าง ที่ไม่เคยพลัดพราก
แล ‘ทุกข์’ อันเป็นสิ่งที่ทนได้ยาก
จะแปรเปลี่ยนเป็น ‘สิ่งที่ทนได้’ เมื่อรู้เหตุแห่งทุกข์
ต่อเมื่อ ‘รู้’ ถึงมรรคาแห่งการดับทุกข์ และเดินไปตามมรรคานั้น จักรู้จักคำว่า ‘วาง’
เมื่อใดวาง ฤๅจะหนักด้วยทุกข์ต่อไป?
ไม่รู้จักทุกข์ ไยรู้จักคำว่า ‘พ้นทุกข์’
ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค คืออริยสัจ!
ผู้จะเป็นอริยบุคคลต้องเรียนรู้ด้วยตนเอง ไม่มีใครยัดเยียดความเป็น ‘อริยะ’ ให้ใครได้
ไม่มีใครหยิบทุกข์จากหัวใจใครทิ้งให้ได้
ทั้งหมดต้อง ‘วาง’ จากจิตตน!
‘คนที่รัก’ กำลังย่างบนมรรคาแห่งการพลัดพราก แม้ห่วงใย หากไวษณวีมิได้ทุกข์ต่อความห่วงใยอันนั้น ชี้แนะบอกหนทางแล้ว...ได้ ฤๅมิได้ก็ปล่อยวาง หากบัดนี้ปลอดโปร่งเพราะจิตวิญญาณผู้เป็นที่รักแต่ละคน ปรากฏแสงสว่างแห่งปัญญาเป็นลำดับ...ใครทำ ใครรู้ ใครได้
แม้จะยังเนื่องด้วยความรัก ทำให้ทุกคนผูกพันติดต่อกันมาดุจลูกโซ่ ทว่าเส้นทางที่พากันไปถูกทางแล้ว
‘ภาระ’ ในโลกมนุษย์ ‘จบ’ แล้ว
ความประภัสสรแห่งจิต ยิ่งทำให้ ‘ราศี’ อำไพ วันนี้ แม้แต่คำว่า ‘หวังดี’ ยังต้องปลดวางลงทั้งหมด คนวางสิ่งแบกหาม คนปลดการร้อยรัด ย่อมเดินทาง ‘ตัวเบา’
การอยู่ในโลกมายา มิใช่สิ่งสำคัญ
‘การกลับ’ ต่างหากสำคัญ จะมาจากที่มืดฤๅสว่าง ไม่เทียบเท่าการกลับไปสู่ความสว่าง!
มนุษย์ทุกคนต้องตรวจกรรมะแห่งตนที่ต้องชดใช้
หนี้อื่นอาจหลบหลีกได้ แต่ต้องมิใช่ ‘หนี้กรรม’
มนุษย์มีกรรมะเป็นของตน การฝืนกระแสแห่งกรรม ฤๅกระทำได้นาน?
ทุกอย่างล้วน...มายา สัจธรรมต่างหากที่มีอยู่จริง
ปราณ-ศานติ จริงแท้คือ การหายใจสงบ รำงับ ละเอียด อันเข้าสู่ ฌาน
ฌาน จิตา มายา ไวษณวี คือนวนิยายแห่งธรรม
คือภารกิจของผู้เขียน อันพึงมีต่อพระพุทธศาสนา คืออานิสงส์ร่วมกันทั้งผู้ให้-ผู้รับ
ยโต ธรฺมสตฺโต ชยะ ที่ใดมีธรรม ที่นั้นย่อมมีชัย!
-
รักชนก นามทอน
บรรณาธิการ
สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม
เดือนมีนาคม ๒๕๔๖